โรคไข้เลือดออก นับว่าเป็นโรคที่สร้างปัญหาสุขภาพให้กับผู้ป่วยหลายคนอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ถึงแม้ว่าตอนนี้แพทย์จะใช้วิธีการรักษาไปตามอาการ แต่ก็ได้มีหน่วยงาน ไปจนถึงบริษัทยาต่างๆ ร่วมกันพัฒนาวัคซีนที่ใช้ป้องกันไข้เลือดออก อย่าง บริษัท Sanofi Pasteur ผู้ผลิตวีคซีนไข้เลือดออก ก็ได้ออกระบุเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกนี้แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนเท่านั้น เพราะหากผู้รับวัคซีนยังไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกมาก่อน ทำให้เกิดอันตรายได้จากอาการป่วยที่อาจรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจากการออกมาระบุในครั้งนี้ คาดว่า Sanofi Pasteur ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกอาจได้รับความเสียหายถึง 100 ล้านยูโร จากข้อจำกัดที่มีต่อวัคซีน
ภายหลังจากที่มีการออกมาระบุของ Sanofi Pasteur ถึงปัญหาของวัคซีนไข้เลือดออกที่พัฒนาขึ้นนั้น ทางประเทศฟิลิปปินส์ โดยรัฐบาลมะนิลาก็ได้ระงับการให้วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ที่นับว่าเป็นโครงการระดับชาติเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกเป็นครั้งแรก ทั้งยังได้เรียกร้องให้มีการคืนเงินสูงถึง 59 ล้านดอลล่าร์ นอกจากนั้นก็ยังมีการระบุเพิ่มเติมอีกว่า มีผู้เสียชีวิต 3 รายจากไวรัสไข้เลือดออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทั้ง 3 รายนี้จะได้รับวัคซีนไปก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ความเห็นว่า วัคซีนของ Sanofi Pasteur อาจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง WHO (World Health Organization) หรือ องค์การอนามัยโลก ก็ได้จัดการประชุมเป็นเวลา 2 วันเกี่ยวกับการใช้วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกและสถานการณ์ความน่าเป็นห่วงที่เกิดขึ้น โดยนักวิจัยอิสระที่เข้าร่วมประชุมได้ออกมาประกาศว่า ในตอนนี้มีหลักฐานที่ชี้ชัดแล้วว่าวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่ Sanofi Pasteur ได้พัฒนาขึ้น ควรใช้ในผู้ป่วยที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนเท่านั้น รวมถึงยังระบุเพิ่มเติมว่า กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกมีความเสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออก และมีประชากรประมาณ 96 ล้านคนที่ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในแต่ละปี
